เมื่อ Web3 กำลังจะกลายเป็นอนาคตของอินเทอร์เน็ตและดูเหมือนทุกคนจะพูดถึง มาดูกันดีกว่า Web3 จะเป็นอนาคตอย่างที่ว่า หรือเป็นเพียงคำพูดตามกระแส และ Metaverse โครงการของ Facebook ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น Meta นั้นจะกลายเป็นโปรเจ็กต์ที่อยู่เหนือกว่า Web3 หรือไม่
ในยุคดิจิทัล นั้นการขับเคลื่อนของเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว หลายคนได้ยินคำว่าคริปโตและเมตาเวิร์สแทรกอยู่ในข่าวในโซเชียลชนิดที่ชินตา ชินหู และชินต่อการรับรู้ และในช่วงเวลาครึ่งปี 2021 ที่ผ่านมา คำว่า Web3 ก็กลายเป็นคำศัพท์ทางเทคนิคที่ถูกพูดถึงในแวดวงของเหล่าเจ้าของเทคฯ คอมพานี นักลงทุนในโลกดิจิทัล ซึ่งการพูดถึง Web3 ในเวลานี้คือการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคดังกล่าว.
เอาเข้าจริงการสู่ยุค Web3 ยังไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจของคนทั่ว ๆ ไป เพราะเป็นการพัฒนาวงการ เวิลด์ ไวด์ เว็บ ให้เข้าสู่ศักราชใหม่ ที่ทุกอย่างจะครบจบที่เดียวโดยไม่ต้องข้ามแพลตฟอร์มให้เสียเวลา ทำให้การใช้งานเว็บไซต์ต่อจากนี้ไม่ใช่แค่เข้ามาแล้วอ่านหรือเสพคอนเทนต์แต่เพียงอย่างเดียว แต่จะทำได้มากกว่า และการเชื่อมต่อของโลกโซเชียลมีเดียนั้นจะเป็นการเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อ
เปรียบเทียบง่าย ๆ เว็บไซต์ในทุกวันนี้ คือ การสร้างข้อมูลออนไลน์ ในรูปแบบของ Web1.0 ผู้คนเข้ามาหาข้อมูล มีการโต้ต้อบผ่านทางเว็บบอร์ด พอเข้าสู่ยุค Web2.0 ในช่วงกลางปี 2000 แพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ตเริ่มมีการพัฒนาทั้งระบบค้นหาของกูเกิล อีคอมเมิร์ซของ Amazon การสร้างชุมชนออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ซึ่งในยุค Web2.0 นั้นทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลนั้นง่ายกว่าเดิม และทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในโลกเสมือนจริงที่มากขึ้นกว่าเดิม เหนืออื่นใดยังทำให้เทคฯ คอมพานีทั้งหลายเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และถ้าโลกดิจิทัลพัฒนาไปถึง Web3 ก็เปรียบเสมือนการรวมศูนย์พลังของโลกดิจิทัลเอาไว้
ในโลกของ Web3 นั้น ประชากรชาวเน็ตจะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลของตนเอง และจะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการติดต่อสื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงการใช้งานกับอีคอมเมิร์ซ ที่สามารถเลือกสิ่งที่พวกเขาต้องการในลักษณะของ Personalized จะมีการบันทึกในทุกกิจกรรมของผู้ใช้งานในรูปแบบของ Blockchain โดยที่ข้อมูลดังกล่าว บรรดาบริษัทใหญ่ไม่ได้เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวอีกต่อไป และด้วยวิธีการของ Web3 นั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้คนในโลกมีข้อมูลในมือในระดับพอ ๆ กัน ไม่ต้องเสียเปรียบองค์กรใหญ่ ๆ อีกต่อไป
ทั้งนี้การเติบโตของ Web3 นั้นเป็นการเติบโตไปพร้อมกับโลกที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญและให้ค่ากับเงินสกุลดิจิทัล การเป็นเจ้าของสิทธิงานศิลปะดิจิทัล หรือ NFTs หรือแม้กระทั่งการแตกหุ้นดิจิทัล ของเทคฯคอมพานี เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม ทีนี้ก็ต้องมาดูกันต่อว่า Web3 จะเกิดขึ้นได้เต็มรูปแบบจริงหรือเป็นเพียงแค่กระแสชั่วคราว
Web3 จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่บนโลกดิจิทัลหรือไม่
ทัศนะจากผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองเรื่อง Web3 เอาไว้ว่าสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดของ Web3 คือ การพัฒนาร่วมกันไปกับ Web2.0 ไม่ใช่ Web3 จะเข้ามาแทนที่ Web2.0 ไปเลย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเหล่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหลายเริ่มพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ของตนเองไปก่อนแล้ว ซึ่งธุรกิจหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งหลายนั้นดูทิศทางแล้วจะเติบโตเป็นอย่างมากในช่วงปี 2022 ที่กำลังจะมาถึง และเป็นไปได้ยากมากที่จะเข้ามาแย่งพื้นที่แต่เดิมของเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือกูเกิล ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทเหล่านั้นคือเจ้าของตลาด และเป็นเทคโนโลยีในยุค Web2.0 ที่จะพัฒนาเข้าสู่ยุค Web3 ด้วยตนเอง
แล้ว Web3 จะทำงานร่วมกับอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ตอย่าง Metaverse ได้หรือไม่
หลังจากเฟซบุ๊กรีแบรนด์ตนเองมาเป็น Meta และเตรียมสร้างโลก Metaverse ที่โลกเสมือนจริงกับโลกจริง จะผสานเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งไอเดียของ Web3 นั้นจะทำให้ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียไม่ต้องข้ามแพลตฟอร์มอีกต่อไป แต่จะผสานกันเป็นหนึ่งเดียว จากแอคเคาท์เดียวที่สามารถเชื่อมต่อบริการจากโซเชียลหนึ่งไปยังอีกโซเชียลหนึ่งได้ เชื่อมต่อจากโซเชียลหนึ่งไปยังอีกโซเชียลหนึ่งแบบไร้รอยต่อ
แต่ดูเหมือนว่าไอเดียดังกล่าวจะไม่ถูกซื้อจากผู้บริหารเฟซบุ๊ก และมีความเป็นไปได้ยากที่จะผสานเฟซบุ๊กกับแพลตฟอร์มอื่น ดังนั้นเฟซบุ๊กจึงสร้างโลก Metaverse ของตนเองขึ้นมา
โอกาสใดบ้างที่จะเกิดขึ้นหาก Web3 ได้กำเนิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ
ที่ผ่านมาโลกของอินเทอร์เน็ตนั้นได้ชื่อว่าเป็นโลกที่มีการรวมศูนย์ข้อมูลและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่เก็บรวบรวมข้อมูลไว้เพียงเจ้าเดียว การมาของ Web3 ด้วยเทคโนโลยี Blockchain นั้นทำให้เกิดความเชื่อว่าข้อมูลจะไม่ถูกรวมศูนย์ไว้ที่เดียวอีกต่อไป และการเข้าถึงข้อมูลจะได้รับความเท่าเทียมเหมือนกันหมด ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปได้ตามฝันสักเท่าไรนัก
ขณะเดียวกันเหล่านักลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล ที่ร่ำรวยขึ้นมาในช่วงของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ต่างก็เริ่มเบื่อการลงทุนในแอปพลิเคชันกันแล้ว พวกเขาต้องการสิ่งใหม่อย่าง Web3 ที่มีทฤษฎีและความเป็นไปได้ เพื่อนำเงินไปลงทุนและเหล่านักพัฒนาเทคโนโลยี ก็ต้องการวิสัยทัศน์ในการชี้นำจากนายทุนเช่นกัน
ที่มา : tonkit360.com
Post Views: 1,130